สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๗ ประกอบด้วย กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณกุศล โดยมอบอุปกรณ์ปฐมพยาบาลให้แก่องค์การกาแดงแขวงสะหวันนะเขต และมูลนิธิพมมะเทบ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุในแขวงสะหวันนะเขต พิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยการถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์จำนวน ๑๐ รูป ณ วัดจอมเกดไซสีบ้านหัวเมือง นครไกสอนพมวิหาน และพิธีวางพานพุ่มดอกไม้และกล่าวถวายราชสดุดี ณ อาคารที่ทำการ โดยนายปัฐม์ ปัทมจิตร กงสุลใหญ่ฯ เป็นประธาน พร้อมด้วยข้าราชการ คู่สมรส และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ต่อมากงสุลใหญ่ฯ เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองในโอกาสดังกล่าว โดยมีนายบุนโจม อุบนปะเสิด เจ้าแขวงสะหวันนะเขต เป็นแขกเกียรติยศ พร้อมด้วย ดร. ดาววง พอนแก้ว เจ้าแขวงสาละวัน ดร. สมสะอาด อุ่นสีดา รองเจ้าแขวงคำม่วน นายคำสอน กอนเยอ รองเจ้าแขวงเซกอง นางวาดสะหนา สิลิมา ประธานแนวลาวสร้างชาติแขวงจำปาสัก นายอินปัน อินทิลาด หัวหน้าแผนกสาธารณสุขแขวงอัตตะปือ นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายณรงค์ เทพเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ นาย Ky Monyrath กงสุลใหญ่ราชอาณาจักรกัมพูชา ณ นครปากเซ นาง Dang Thi Hai Tam กงสุลใหญ่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ แขวงสะหวันนะเขต ผู้แทนภาครัฐและเอกชนจากแขวงในเขตกงสุลและจังหวัดชายแดนไทยที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานประมาณ ๕๐๐ คน
งานเลี้ยงรับรองที่จัดขึ้นมีการนำเสนอเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural Heritage: ICH) ซึ่งเป็นหนึ่งในรายการอาหารไทยและลาวที่นำเสนอภายในงาน อีกทั้งมีการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และการจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย อาทิ การแสดงรำหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา ซึ่งตัดตอนมาจากการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ จากวิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว