เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๖ นายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต พร้อมด้วยนางสาวสรัสวดี อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. นครพนม (รับผิดชอบจังหวัดสกลนคร - จังหวัดนครพนม - จังหวัดมุกดาหาร หรือกลุ่ม “จังหวัดสนุก”) นางศุภากาญจน์ ยอดฉุน ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. โฮจิมินห์ (รับผิดชอบเวียดนาม สปป. ลาว และกัมพูชา) ผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวจากกลุ่ม “จังหวัดสนุก” และแขวงสะหวันนะเขต เข้าร่วมการประชุมแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ณ ห้องประชุมสถานกงสุลใหญ่ฯ

          การประชุมดังกล่าวเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสองฝั่งโขงของไทยและ สปป. ลาวได้หารือแลกเปลี่ยนความเห็นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงและความร่วมมือระหว่างกัน รวมถึงประชาสัมพันธ์ศักยภาพการท่องเที่ยวของประเทศไทย “เที่ยวไทย ๕ ภาค Amazing ยิ่งกว่าเดิม” ที่มีสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ใน ๕ ภูมิภาคที่สอดคล้องกับการส่งเสริมปีท่องเที่ยวไทย ๒๕๖๖ ซึ่งจะก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (High Value and Sustainable Tourism) ภายใต้แนวคิด “โมเมนต์ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ” (Meaningful Travel) ที่เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย คุณภาพ และการเสริมสร้างประสบการณ์ (Experience Based) ผ่าน Soft Power: 5F (Food, Festival, Film, Fight และ Fashion) โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีศักยภาพหลากหลายด้าน อาทิ การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ซึ่งล่าสุดโครงการ MICHELINGuide Thailand 2023 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ผลักดันและต่อยอด Soft Power ด้านอาหาร (F - Food) ได้ขยายพื้นที่สำรวจครอบคลุมสู่ 4 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดนครราชสีมา

          ทุกฝ่ายเห็นพ้องในการรื้อฟื้นการจัดกิจกรรม Familiarization Trip โดยเชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลุ่ม “จังหวัดสนุก” แขวงสะหวันนะเขต/คำม่วน และเวียดนามเข้าร่วม เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การจัดการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน และการประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ร่วมกันจากที่ว่างเว้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙