เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 กรมมาตรฐานและตรวจวัด กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป. ลาว ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักอ้อยของบริษัท น้ำตาลมิตรลาว จำกัด ที่เมืองไซบูลี แขวงสะหวันนะเขต ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยมีนายพูเงิน จันทะสอน ประธานคณะกรรมการปกครองเมืองไซบูลี นายสอาด ปัญญาดิบวงศ์ ผู้อำนวยการด้านอ้อยของบริษัทฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนชาวไร่อ้อยเข้าร่วม

นายสอาดฯ ระบุว่า การตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักของบริษัทฯ มีขึ้นปีละ 1 ครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคมของทุกปีก่อนที่จะมีการหีบอ้อย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและชาวไร่อ้อยที่ขายอ้อยให้แก่บริษัทฯ ซึ่งกรมมาตรฐานและตรวจวัดจะร่วมกับพนักงานและเจ้าหน้าที่ระดับแขวงและเมืองลงพื้นที่ตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนักทุกจุด ซึ่งในปีการผลิต 2568/69 บริษัทฯ จะเปิดหีบอ้อยในวันที่ 10 ธันวาคม 2568 คาดว่าจะมีอ้อยเข้าหีบที่โรงงานประมาณ 720,000 ตัน  โดยบริษัทฯ กำหนดราคารับซื้ออ้อย ดังนี้

(1) อ้อยอินทรีย์ รับซื้อราคาสูงสุดที่ 890,000 กีบ (ประมาณ 1,328 บาท) ต่อตัน (กรณีอ้อยสดสะอาด) และรับซื้อราคาต่ำสุดที่ 770,000 กีบ (ประมาณ 1,149 บาท) ต่อตัน (กรณีอ้อยไฟไหม้ปนเปื้อน ใบเยอะหรือยอดยาว)

(2) อ้อยทั่วไป รับซื้อราคาสูงสุดที่ 740,000 กีบ (ประมาณ 1,104 บาท) ต่อตัน (กรณีอ้อยสดสะอาด) และรับซื้อราคาต่ำสุดที่ 620,000 กีบ (ประมาณ 925 บาท) ต่อตัน (กรณีอ้อยไฟไหม้ปนเปื้อน ใบเยอะหรือยอดยาว)

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะพิจารณาจ่ายเงินพิเศษภายหลังปิดหีบเพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยอีก 30,000 กีบ (ประมาณ 45 บาท) ต่อตันอีกด้วย

นายสอาดฯ เสริมว่า ในปีนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มเครื่องชั่งอีก 1 เครื่อง เพื่อรองรับรถขนาดเล็ก อาทิ รถไถและรถกระบะที่ชาวไร่อ้อยทั่วไปมีและใช้ขนส่งอยู่เป็นประจำ ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่สนับสนุนให้เกษตรกรใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้วเพื่อลดต้นทุนของชาวไร่อ้อยให้มีรายรับเพิ่มขึ้น และบริษัทฯ ยังมีนโยบายขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 6,000 ตันต่อวัน เป็น 8,000 ตันต่อวัน เพื่อรองรับปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้น และเพื่อให้ผลิตเสร็จภายในเดือนเมษายน 2569

สำหรับด้านความปลอดภัย รถบรรทุกที่จะนำอ้อยส่งเข้าหีบที่โรงงานต้องมีความสูงไม่เกิน 3.80 เมตร และต้องมีสายรัดอ้อยไม่น้อยกว่า 3 เส้น โรงงานจึงจะรับแจ้งคิวนำอ้อยลงหีบ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน และเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

บริษัท น้ำตาลมิตรลาว จำกัด เข้ามาลงทุนที่แขวงสะหวันนะเขต สปป. ลาว เมื่อปี 2549 โดยได้รับสัมปทานที่ดินเพื่อปลูกอ้อยและก่อสร้างโรงงานน้ำตาลจากรัฐบาล สปป. ลาว จำนวน 10,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 62,500 ไร่) ปัจจุบัน บริษัทฯ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการปลูกอ้อยในรูปแบบ 2 + 3 (ประชาชนรับผิดชอบที่ดิน แรงงานและการบริหารจัดการ บริษัทฯ รับผิดชอบทุน ตลาด และวิชาการ) ตามนโยบายของรัฐบาล สปป.ลาว โดยมีสมาชิกมากกว่า 2,400 ครอบครัวเข้าร่วม มีปริมาณอ้อยเข้าหีบที่โรงงานมากกว่า 500,000 ตันต่อปี คาดว่าภายในปี 2570 จะมีอ้อยเข้าหีบสูงถึง 1 ล้านตัน โดยบริษัทฯ ลงทุนแล้วมากกว่า 1 พันล้านบาท สำหรับน้ำตาลที่ผลิตได้จะจำหน่าย ทั้งภายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม และสหภาพยุโรป

ที่มาภาพ: Facebook: Savanhphathana News

แหล่งอ้างอิง

1. Facebook: Savanhphathana News ประจำวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2025 <https://www.facebook.com/savanphatththananews/posts/pfbid0v6rqJDYQsMqiyGtjujSh5psRbsmLp4QZTuRoTtnPUds5xtXjnu6jvXhLrzif5tpSl>
2. Facebook: TVsavannakhet ประจำวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2025<https://www.facebook.com/reel/861692949959442>
3. Facebook: ประจำวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 2025 <https://www.facebook.com/savanphatththananews/posts/pfbid0JiUSpFAkBTtwmDsfTA3Asm6M8Qm2FeL5fFjFJ29brxf61uKpqkADNHoCJGQ8FzpRl>
4. ประกาศ บริษัท น้ำตาลมิตรลาว จำกัด เรื่อง ราคารับซื้ออ้อยและเงื่อนไขการจ่ายเงินพิเศษ ประจำปีการผลิต ค.ศ. 2025/26

*หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท เท่ากับ 670 กีบ / พื้นที่ 1 เฮกตาร์ เท่ากับ 6.25 ไร่