สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตสานต่อความร่วมมือกับจังหวัดอุบลราชธานีในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวกับแขวงภาคใต้ของ สปป. ลาว

สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตสานต่อความร่วมมือกับจังหวัดอุบลราชธานีในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวกับแขวงภาคใต้ของ สปป. ลาว

วันที่นำเข้าข้อมูล 17 พ.ย. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 17 พ.ย. 2565

| 913 view

          เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ นายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต พร้อมด้วยนางสาวธิติยา ปานมณี กงสุล และนายพาสุก แก้วไกสอน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฝ่ายตรวจลงตรา เข้าเยี่ยมคารวะนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเข้ารับหน้าที่เมื่อเดือนตุลาคม ศกนี้ ที่ศูนย์ราชการจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐและเอกชนของจังหวัดเข้าร่วมด้วย

          โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายหารือแลกเปลี่ยนความเห็นถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างสถานกงสุลใหญ่ฯ กับจังหวัดอุบลราชธานี โดยเฉพาะภารกิจด้านกงสุลในการรับตัวคนไทยที่พ้นโทษจากแขวงจำปาสัก สปป. ลาวเดินทางกลับประเทศผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีกับแขวงภาคใต้ของ สปป. ลาวที่มีชายแดนติดต่อกันคือ แขวงจำปาสัก และแขวงสาละวัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของ การค้าระหว่างไทย - สปป. ลาวที่ในช่วง ๙ เดือนแรก (มกราคม - กันยายน) ของปี ๒๕๖๕ มีมูลค่าประมาณ ๒๐๕,๐๐๐ ล้านบาท (ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปี ๒๕๖๔ ร้อยละ ๒๐.๙๗) ด้านการลงทุนแขวงจำปาสักส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยไปลงทุนด้านเกษตรพันธสัญญา (contract farming) และใช้ประโยชน์จากเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ ขณะที่ด้านการท่องเที่ยวแขวงจำปาสักและแขวงสาละวันมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและ สปป. ลาวมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นมากภายหลังการเปิดประเทศให้ประชาชนเดินทางระหว่างกันเมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-๑๙ คลี่คลายลงเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕ (กระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป. ลาวระบุว่า ในช่วง ๙ เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมา สปป. ลาว จำนวน ๓๖๕,๕๑๕ คน ซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ)

          ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้กล่าวถึงกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดในช่วงปลายปีนี้คือ การประชุมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และงานฤดูหนาวประจำปี ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานและสร้างรายได้ให้แก่ภาคเอกชนและประชาชนเป็นจำนวนมาก

* * * * * * * * * * *

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ