ค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดในรอบ ๖ ปี ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินกีบและเงินบาท (LKP-THB) ลดลงถึงร้อยละ ๑๔.๔

ข้อมูลด้านอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารการค้าต่างประเทศลาวพบว่า เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ ๒๗๔.๓๑ กีบต่อ ๑ บาท แต่เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ เงินบาทแข็งค่าขึ้นจนแตะระดับ ๒๘๖.๖๖ กีบต่อ ๑ บาท

          สินค้าภายในประเทศลาวส่วนใหญ่ อาทิ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุปโภคและบริโภค นำเข้าจากประเทศไทย การแข็งค่าของค่าเงินบาทส่งผลให้สินค้าในประเทศลาวขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการลาวหันไปนำเข้าสินค้าจากจีนและเวียดนามแทน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและช่วยในการรักษาระดับราคาสินค้าไม่ให้ปรับตัวสูงจนเกินไป ซึ่งส่งผลต่อปริมาณการค้าระหว่างกันลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ การส่งออกของไทยไป สปป.ลาว ในไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๒ ลดลงร้อยละ ๘.๘๘

          ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยวิเคราะห์ว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกิดจาก ๒ ปัจจัยหลัก ได้แก่ สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมีความผันผวนและมีความเสี่ยงสูง ตลอดจนธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ ทำให้นักลงทุนเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐ และหันมาถือเงินบาทที่มีเสถียรภาพมากกว่า ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

          นอกจากนี้ โดยที่เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพด้านการค้าระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนในตลาดเงินมีความเชื่อมั่น และเลือกเข้ามาลงทุนในตลาดเงินเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น

                                                ************************

           ที่มา – ๑. ลาวโพสต์ วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒

                          ๒. https://www.posttoday.com/finance/news/592970

                          ๓.  https://www.bot.or.th/Thai/AboutBOT/Activities/Pages/Currency_14022019.aspx

                          ๔.  https://www.prachachat.net/finance/news-292708