วันที่นำเข้าข้อมูล 13 มิ.ย. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 25 พ.ย. 2565
เนื่องในโอกาสอันเป็นมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขตได้ดำเนินโครงการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์พื้นฐานเพื่อมอบให้แก่สถานีอนามัยในเมืองทุกข์ยากของแขวงสะหวันนะเขต โดยเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2555 นายรัศม์ ชาลีจันทร์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ได้เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐานให้แก่แผนกสาธารณสุขแขวงสะหวันนะเขต มี ดร.คำเผย ผันทะจอน รองเจ้าแขวงสะหวันนะเขตร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีรับมอบ
อุปกรณ์การแพทย์ที่มอบในครั้งนี้ รวมมูลค่า 300,000 บาท ประกอบด้วย ชุดเครื่องมือช่วย ทำคลอด (Delivery Kit “standard”) หูฟังแพทย์ (Stethoscope) เครื่องวัดความดันปรอทแบบตั้งโต๊ะ อย่างละ 25 ชุด และปรอทวัดไข้ จำนวน 50 อัน โดยบริษัทขายอุปกรณ์การแพทย์ Viva care ได้ร่วมมอบอุปกรณ์การแพทย์ ได้แก่ ชุดตรวจหู ตา คอ จมูก และเครื่องวัดปริมาณออกซิเจนในเลือดแบบหนีบนิ้ว อย่างละ 1 ชุด เพื่อให้แขวงสะหวันนะเขตพิจารณานำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เป็น สาธารณกุศลด้วย
แขวงสะหวันนะเขตมีนโยบายที่จะพัฒนาระบบสาธารณสุขของแขวงเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ (MDGs) ภายในปี 2558 โดยเฉพาะการลดอัตราการตายของแม่และเด็ก จากอัตราการตายของแม่ 450 คน/เด็กที่เกิดมีชีวิต 100,000 คน ในปี 2548 ให้เหลือ 260/100,000 คน ในปี 2558 ลดอัตราการตายของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จาก 98 คน/เด็กที่เกิดมีชีวิต 1,000 คน ให้เหลือ 70 คน/1,000 คน และลดอัตราการตายของเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี จาก 70/1,000 คน ให้เหลือ 45 คน/1,000 คน แขวงสะหวันนะเขตจึงได้ขยายสถานีอนามัยตามชุมชนต่างๆ ได้จำนวน 123 แห่ง และยังคงมีชุมชนอีกกว่า 40 แห่งที่ยังไม่มีสถานีอนามัย แต่สถานีอนามัยเหล่านี้ยังขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐานต่างๆ ในการรักษาคนไข้ โดยเฉพาะในการช่วยทำคลอด ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมาย MDGs ดังกล่าว
การมอบอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐานของสถานกงสุลใหญ่ฯ ในครั้งนี้ได้ตอบสนองความต้องการของแขวงสะหวันนะเขตอย่างแท้จริง โดยรองเจ้าแขวงสะหวันนะเขตได้แสดงความขอบคุณสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาแขวงสะหวันนะเขตด้วยดีตลอดมา ซึ่งการมอบอุปกรณ์การแพทย์ในครั้งนี้ ถึงแม้ว่ามูลค่าจะไม่มากแต่มีความหมายลึกซึ้งยิ่งต่อแขวงและประชาชนลาว แขวงสะหวันนะเขตตีราคาสูงต่อน้ำใจในครั้งนี้ และจะนำอุปกรณ์การแพทย์ดังกล่าวไปช่วยรักษาประชาชนในเขตห่างไกลทุรกันดารต่อไป
รูปภาพประกอบ