เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ บริษัท Lao Crypto Mining Co., Ltd. (LCM) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท Asia Investment and Financial Services Sole Co., Ltd. (AIFS) (ในเครือ AIF Group) และ United Power of Asia Public Co., Ltd. (UPA) จัดพิธีเปิดโรงงานเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซีที่แขวงจำปาสักอย่างเป็นทางการ โดยมี ดร. บ่อเวียงคำ วงดาลา รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร สปป. ลาว ดร. วิไลวง บุดดาคำ เจ้าแขวงจำปาสัก นายจันทะบูน สุกอาลุน ผู้อำนวยการใหญ่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว ดร. ลิดทิกอน พูมมะสัก ประธานสภาบริหารกลุ่มบริษัท AIF Group เข้าร่วม

          บริษัท UPA ได้เข้าลงทุนในธุรกิจการขุดเหมืองคริปโทฯ ใน สปป. ลาว โดยบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการไฟฟ้าจึงเล็งเห็นศักยภาพและความได้เปรียบในการประกอบธุรกิจดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๕ บริษัทฯ เริ่มเปิดเครื่องขุดเหมืองคริปโทฯ จำนวน ๔๐๐ เครื่อง และติดตั้งเครื่องขุดเหมืองคริปโทฯ เพิ่มเติม ในเดือนมีนาคม ๒๕๖๕ จำนวน ๒,๐๐๐ เครื่อง เดือนเมษายน ๒๕๖๕ จำนวน ๒,๐๐๐ เครื่อง และภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕ จะติดตั้งเพิ่มเติมอีก ๑,๖๐๐ เครื่อง รวมจำนวนเครื่องขุดเหมืองคริปโทฯ ทั้งสิ้น ๖,๐๐๐ เครื่อง ซึ่งบริษัทฯ ประมาณการว่าด้วยกำลังการขุดดังกล่าวจะสามารถขุดบิทคอยน์ได้ ๒.๕ - ๓.๑ บิทคอยน์ต่อวัน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานน้ำซึ่งเป็นพลังสะอาด โดยสัมปทานไฟฟ้าจากรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) จำนวน ๒๐ เมกะวัตต์ สำหรับเหมืองขุดคริปโทฯ ที่แขวงจำปาสัก และได้รับสิทธิ์ในการใช้ไฟฟ้าเพื่อประกอบธุรกิจ คริปโทฯ อีกจำนวน ๒๐ เมกะวัตต์ สำหรับเตรียมการรองรับการขยายธุรกิจและลดความเสี่ยงในการขาดแคลนพลังงาน

          ล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท UPA มีมติให้ลงนามบันทึกข้อตกลงเข้าลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลใน สปป. ลาว เพิ่มเติม ผ่านบริษัท LCM ในธุรกิจให้บริการพื้นที่และสาธารณูปโภคครบวงจรในการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลใน สปป. ลาว อาทิ ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบระบายความร้อน ทีมพนักงาน และพื้นที่ตั้งเครื่องขุดคริปโทฯ เพื่อให้บริการเจ้าของเครื่องขุดคริปโทฯ ที่ประสงค์จะใช้บริการ โดยการแบ่งปันผลประโยชน์เป็นเหรียญคริปโทฯ ที่ขุดได้ ซึ่งสามารถรองรับเครื่องขุดคริปโทฯ ด้วยกำลังไฟฟ้าถึง ๔๐ เมกะวัตต์ โดยใช้เครื่องขุดเหมืองคริปโทฯ จำนวน ๑๒,๐๐๐ เครื่อง

          บริษัท UPA ร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท AIF Group ที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายและมีความเชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยีเครื่องขุดคริปโทฯ จากจีน และระบบพลังงานไฟฟ้าใน สปป. ลาว รวมถึงเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่สำคัญใน สปป. ลาว ทั้งนี้ รัฐบาล สปป. ลาว สนับสนุน การร่วมมือระหว่างภาคเอกชนเพื่อพัฒนา สปป. ลาว ไปสู่การเป็นหนึ่งในตลาดสกุลเงินคริปโทที่สำคัญของภูมิภาค และที่ผ่านมาการขุดและซื้อขายสกุลเงินคริปโทฯ และทรัพย์สินดิจิทัลอื่น ๆ สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาล สปป. ลาว แล้วประมาณ ๑๙๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ        

เครดิตภาพ: AIF Group (aifgrouplaos.com)

ข้อมูลเพิ่มเติม

          สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต (โอกาสสำหรับธุรกิจไทยใน สปป. ลาว: UPA ลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลใน สปป. ลาว และขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซีที่แขวงจำปาสัก) <https://savannakhet.thaiembassy.org/th/content/upacryptocurrencyinlaopdr?cate=5d849c1415e39c26b4003bcb>

แหล่งอ้างอิง    

          ๑.  AIF Group สืบค้นวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕<https://aifgrouplaos.com/News/NewsDetails?id=46>

          ๒. UPA สืบค้นวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ <https://www.unitedpowerofasia.com/th/our-business/cryptocurrency-mining>

          ๓. มิติหุ้น ประจำวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ <https://www.mitihoon.com/2022/05/17/305424/>

          ๔. หนังสือ UPA ที่ ๐๐๙-๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๕ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย <https://classic.set.or.th/dat/news/202203/22038157.pdf>

          ๕. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากแผนกอุตสาหกรรมและการค้าแขวงจำปาสัก วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕

**********