วันที่นำเข้าข้อมูล 11 มี.ค. 2565
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๕ นายเหล็กไหล สีวิไล เจ้าแขวงเซกอง ต้อนรับนายสินละวง คุดไพทูน กรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ประธานแนวลาวสร้างชาติและคณะซึ่งเดินทางเยือนแขวงเซกอง โดยคณะฯ ได้เยี่ยมชมบริษัท พลังงานไฟฟ้าเซกอง จำกัด (Xekong Power Plant Co., Ltd.) เมืองกะลึม ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัทพอนสัก (Phonesack Group Co., Ltd.: PSG)
โครงการเหมืองถ่านหินของบริษัท PSG มีนายพอนสัก วิไลสัก ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทฯ และมีสำนักงานใหญ่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ มีพื้นที่สัมปทานในแขวงเซกองทั้งหมด ๗๗,๐๐๐ เฮกตาร์ (๔๘๑,๒๕๐ ไร่) เริ่มดำเนินการสำรวจถ่านหินในปี ๒๕๕๘ โดยพบปริมาณถ่านหินสะสมประมาณ ๖๔๖.๕ ล้านตัน ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการขุดเหมืองที่บ่อปากไซและบ่อกะลึม โดยบ่อปากไซเป็นพื้นที่หลักในการขุดค้นและแปรรูปถ่านหินเพื่อจำหน่าย โดยคาดว่าจะสามารถผลิตถ่านหินได้มากกว่า ๔๐ ล้านตัน สำหรับจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม กัมพูชา และไทย
นอกจากโครงการเหมืองถ่านหินดังกล่าวแล้ว แขวงเซกองยังมีแผนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนถ่านหินจำนวน ๓ แห่ง กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม ๓,๕๐๐ เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจความเป็นไปได้และการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย
๑. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนถ่านหิน เมืองกะลึม กำลังการผลิตไฟฟ้า ๑,๘๐๐ เมกะวัตต์ (MW) พัฒนาโดยกลุ่มบริษัท PSG มูลค่าการลงทุนประมาณ ๓ - ๔ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าส่งไปจำหน่ายให้แก่กัมพูชา
๒. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนถ่านหิน เมืองละมาม กำลังการผลิต ๗๐๐ เมกะวัตต์ (MW) พัฒนาโดยบริษัท TSBP Sekong Power and Mineral Co., Ltd. บนพื้นที่ ๒๒๘ ตารางกิโลเมตร ทำการสำรวจเสร็จสิ้นแล้ว ๖๘ ตารางกิโลเมตร คาดว่าจะมีปริมาณถ่านหิน ๑๙๔ ล้านตัน มูลค่าการลงทุนประมาณ ๑ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าส่งไปจำหน่ายให้แก่กัมพูชา
๓. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนถ่านหิน เมืองดากจึง กำลังการผลิต ๑,๐๐๐ เมกะวัตต์ (MW) พัฒนาโดยบริษัท Khounmixay Bridge and Road Construction and Repair Company (KMX) ของลาว ร่วมทุนกับบริษัท Evolution Power Investment Corporation (EPIC) ของสิงคโปร์ มูลค่าการลงทุนประมาณ ๑.๗ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะผลิตไฟฟ้าส่งไปจำหน่ายให้แก่ไทย เวียดนาม และกัมพูชา
เครดิตภาพ: Facebook: ข่าวเซกอง
แหล่งอ้างอิง
๑. Facebook: ข่าวเซกอง ประจำวันที่ ๑๐ มีนาคม ค.ศ. ๒๐๒๒
๒. สำนักข่าว RFA ประจำวันที่ ๙ มิถุนายน ค.ศ. ๒๐๒๐
๓. สำนักข่าว RFA ประจำวันที่ ๑๓ สิงหาคม ค.ศ. ๒๐๒๐
๔. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป. ลาว ประจำวันที่ ๖ สิงหาคม ค.ศ. ๒๐๒๐
๕. Xinhuathai <https://www.xinhuathai.com/inter/175106_20210205> ประจำวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๒๐๒๑
๖. ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในลาว <https://thaibizlaos.com/lao/rules/detail.php?cate=news-hilight&id=22122> ประจำวันที่ ๒ พฤศจิกายน ค.ศ. ๒๐๒๑
**********