เมื่อวันที่ ๒๙ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๗ สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ร่วมกับภาคเอกชนกาแฟลาวกลุ่ม Lao Slow Bar Barista ดำเนินโครงการส่งเสริมการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์กาแฟ ณ โรงหนังเก่าลาวจะเลิน แขวงสะหวันนะเขต โดยจัดการเสวนา “ศักยภาพการผลิตกาแฟใน สปป. ลาว ต่อการส่งออกกาแฟและการบริโภคกาแฟของประเทศไทยในปัจจุบัน” ซึ่งมีผู้ร่วมเสวนาจาก สปป. ลาว คือ นางเกดมะนี โพสะหวัน ประธานบริษัท Yrou Coffee และผู้จัดการโรงแรมพูเทวดา เมืองปากซอง แขวงจำปาสัก และจากประเทศไทย คือ นายอภิรักษ์ อื้อเทียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เค เนเจอร์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจจัดหา นำเข้า และจำหน่ายกาแฟจาก สปป. ลาว และมีผู้ประกอบการด้านกาแฟทั้งจากประเทศไทยและ สปป. ลาว เข้าร่วมกว่า ๑๐๐ คน

          โอกาสนี้ ผู้ประกอบการและนักชงกาแฟยังได้เข้าร่วมการแข่งขันชงกาแฟ Brew Battle Savannakhet Laos 2024 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีและเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นที่แขวงสะหวันนะเขต โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันฯ ที่เป็นผู้ประกอบการและนักชงกาแฟทั้งใน สปป. ลาว อาทิ นครหลวงเวียงจันทน์ แขวงสะหวันนะเขต และแขวงจำปาสัก และจากประเทศไทย อาทิ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัด เชียงใหม่ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยแบ่งเป็นการแข่งขันฯ ๒ ประเภท/วิธี คือ ๑) การดริป (Drip) ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันฯ ๖๔ คน และ ๒) การใช้หม้อต้ม (Moka Pot) ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันฯ ๑๐ คน โดยมีคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันฯ คือ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญการประเมินคุณภาพกาแฟ (Q Grader) จากทั้งประเทศไทยและ สปป. ลาว ที่ได้รับใบรับรองจาก Coffee Quality Institute (CQI) จำนวน ๘ คน และนายจันสะถาพอน ซุมพนพักดี ผู้ประกอบการคนลาวเจ้าของร้าน Le Grand Père นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นผู้ชนะการแข่งขัน Thailand Coffee Brewer League 2023 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผู้ริเริ่มการจัดกิจกรรมการแข่งขันชงกาแฟใน สปป. ลาว ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันฯ ทั้งสองประเภทเป็นนักชงกาแฟรุ่นใหม่ของ สปป. ลาว และได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ASEAN Coffee Brewer League 2024 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๘ - ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๗

          การดำเนินโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ - เศรษฐกิจหมุนเวียน - เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ในการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและความยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมกาแฟ และสนับสนุนการสร้างเครือข่ายในการซื้อขายกาแฟโดยตรงจากเกษตรกร (Direct Trade Coffee) การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกาแฟของประเทศไทยและ สปป. ลาว ในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์กาแฟซึ่งเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพของ สปป. ลาว และเป็นแหล่งนำเข้ากาแฟที่สำคัญของประเทศไทย ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนในโอกาสที่ สปป. ลาว เป็นประธานอาเซียนและจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในปี ๒๕๖๗