ลาวและเวียดนามเปิดโครงการนำร่องสถานที่ทำการตรวจร่วม (one-stop-shop) ของพิธีการทางศุลการกรที่ด่านแดนสะหวัน-ลาวบาว แขวงสะหวันนะเขต
การทดลองให้บริการสถานที่ทำการตรวจร่วม (one-stop-shop) ทางฝั่งของเวียดนามนั้น เริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (12 ม.ค.) ภายหลังพิธีเปิดอย่สงเป็นทางการ โดยมีเจ้าหน้าที่จากลาวและเวียดนาม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่จากจังหวัดกวางตรี เข้าร่วมในพิธี
ในขณะที่โครงการสถานที่ทำการตรวจร่วม (one-stop-shop) เริ่มขึ้น การทดลองให้บริการในส่วนของลาวนั้นเริ่มขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2557 หลังจากที่ลาวมีการเตรียมความพร้อมตลอดช่วงปีที่ผ่านมา
การทดสอบเป็นระยะที่สำคัญ ที่เจ้าหน้าที่ของทั้งลาวและเวียดนามต้องตรวจสอบขั้นตอนต่างๆและฝึกฝนผู้ปฏิบัติงาน ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนภุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โครงการจุดตรวจร่วมแบบเบ็ดเสร็จ มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความซับซ้อนของขั้นตอนต่างๆ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าและส่งออก
นายคอนเพ็ง ทำมะวง( Mr. Khonepheng Thammavong )รักษาการอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศแห่ง สปป.ลาว กล่าวกับเวียงจันทน์ไทม์เมื่อวันพุธ(14 ม.ค.) ว่า “เราจะพร้อมเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม เราต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและจัดหาบุคลากร สำหรับโครงการ OSS เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของโครงการ”
ในขณะเดียวกัน ในด้านของเวียดนาม สำนักข่าวเวียดนามเน็ทรายงานว่า เจ้าหน้าที่จังหวัดกวางตรี ได้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นการปฏิบัติงาน เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินงานทางพิธีการศุลการกรของทั้งสองประเทศ จะเกิดความเรียบร้อยราบรื่น กลไก OSS คาดว่าจะลดเวลาลงครึ่งนึงที่จะใช้ในพิธีการทางศุลกากร
ปัจจุบัน ด่านแดนสะหวัน-ลาวบาว ได้ติดตั้งระบบ e-Customs เพื่อช่วยลดเวลาในการรอและเพิ่มความแม่นยำของขั้นตอนทางศุลกากรให้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศนั้นยังคงมีระเบียบทางศุลการกรที่ต่างกันแต่พวกเขาจะร่วมกันดำเนินการเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ
ลาวและเวียดนามได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เกี่ยวกับโครงการจุสถานที่ทำการตรวจร่วม (one-stop-shop) ที่ด่านแดนสะหวัน-ลาวบาว ในปี 2548 ซึ่งสอดคล้องกับข้อตกลงเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าและการขนส่งของประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)
รัฐบาลของทั้งสองประเทศมีความเห็นร่วมกันที่ต้องการให้เกิดการให้บริการจุดตรวจร่วมกันเนื่องด้วยตั้งอยู่บนเส้นทางหมายเลข 9 ของระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งการค้าและการขนส่งชายแดนอยู่ในปริมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เริ่มมีการเปิดใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ในปี 2549 โครงการ OSS ไม่เพียงจะผลักดันเศรษฐกิจของลาวและเวียนนามให้เติบโตเท่านั้น แต่ยังจะส่งผลการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้อีกด้วย
ในระหว่างที่เวียดนามเตรียมเริ่มโครงการสถานที่ทำการตรวจร่วม (OSS) คณะผู้บริหารระดับสูงของด่านในฝั่งเวียดนามได้มอบอุปกรณ์และเครื่องมือการปฏิบัติงาน มูลค่า 2.5 พันล้านดอง (ประมาณ 945 ล้านกีบหรือประมาณ 3.78 ล้านบาท) แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สปป.ลาวเพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานตามโครงการ
* * * * *
แปลจากหนังสือพิมพ์ เวียงจันทน์ไทม์ (Vientiane Times)
ฉบับที่ 6 หน้า 1 และ 3 วันที่ 20 เดือนมกราคม 2558