เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม  2557 นายบุญรงค์ พงษ์เสถียรศักดิ์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ดร. นาม วิยะเกด เจ้าแขวงอัตตะปือ และพันเอกคำเผย บุดดาเวียง เจ้าแขวงเซกอง เพื่อหารือแนวทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

 

แขวงอัตตะปือเป็นแขวงที่อยู่ติดกับเวียดนาม ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานีราว 300 กิโลเมตร อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งป่าไม้และแร่ธาตุ ล่าสุดมีการค้นพบ แร่ Pagodite ซึ่งชาวจีนนิยมใช้ในการแกะสลักทำให้มีนักลงทุนจีนหลั่งไหลเข้าแขวงอัตตะปือจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ และทางวัฒนธรรม อาทิ สถูปพระเจ้าไซยะเสดถา ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่เคยปกครองทั้งล้านช้างและล้านนาที่คนลาวยกย่องเป็นวีรบุรุษ วัดสะแคะที่มีพระพุทธรูปทองคำศักดิ์สิทธิ์และหนองฟ้าซึ่งเป็นทะลสาปน้ำจืดปากปล่องภูเขาไฟเก่า

 

 ดร. นามฯ เดิมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และรัฐมนตรีประจำห้องว่าการรัฐบาล ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าแขวงอัตตะปือเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 มีนโยบายส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ผลตอบแทนที่เป็นรูปธรรมเป็นเครื่องดึงดูดความเจริญ การพัฒนาให้ตามมา ตลอดจนเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนพร้อมที่เรียนรู้และหันมาดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังได้ส่งเสริมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งกับตลาดอื่น ๆ  โดยอยู่ในระหว่างการก่อสร้างสนามบินแขวงอัตตะปือซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2558 และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาก่อสร้างถนนสาย 18 A ระยะทาง 106 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อกับแขวงจำปาสักและประเทศไทย ทั้งนี้ แขวงอัตตะปือมีนโยบายเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว และธุรกิจการท่องเที่ยว

 

แขวงเซกองมีอายุเพียง 30 ปี นับแต่แยกจากแขวงสาละวันเมื่อ พ.ศ. 2527 เดิมเป็นพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ประชากรประมาณ 2 แสนคน โดยร้อยละ 90 เป็นเกษตรกร มีพืชหลักคือ กะหล่ำปลีที่ปลูกเพื่อส่งขายประเทศไทย แม้แขวงเซกองจะมีขนาดเล็ก แต่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวและการลงทุน โดยมีเขื่อนทั้งพลังน้ำและพลังถ่านหิน มีเหมือนแร่ทองคำ ทองแดงและเหล็ก  อีกทั้งยังมีอากาศเย็นประมาณ 18 องศาเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ที่ราบสูงบอละเวน ซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร (สูงกว่าบริเวณเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก ประมาณ 300 เมตร) มีบ่อน้ำพุร้อนบริเวณเมืองกะลึม นอกจากนั้น แต่ละเมืองยังมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่สามารถส่งเสริมเป็น OTOP ได้ อาทิ โสมลาวเมืองดากจึง เหล้าหมากจันและเหล้ามะขามป้อมเมืองท่าแตง  เป็นต้น ทั้งนี้ แขวงเซกอง สนับสนุนการลงทุนโดยเฉพาะด้านการเกษตรและการท่องเที่ยวมาสำรวจในบริเวณแขวงเซกอง

 

สำหรับแขวงอัตตะปือและแขวงเซกอง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานความช่วยเหลือทางการสาธารณสุขและการศึกษาผ่านโรงเรียนแขวงละ 3 แห่ง รวม 6 แห่งเพื่อให้ขยายผลความสำเร็จสู่ชุมชนโดยรอบ นอกจากนั้น ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินโครงการแปลงสาธิตทางการเกษตรที่เมืองดากจึง แขวงเซกอง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ สปป.ลาว