เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ นายคาซุมิ โนะคิคุตะ ผู้จัดการทั่วไปสำนักงานผู้แทนบริษัทมารูเบอนิ คอร์ปอเรชัน (Marubeni Corporation) ประเทศญี่ปุ่น พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนายสันติพาบ พมวิหาน เจ้าแขวง แขวงสะหวันนะเขต ณ  ห้องรับแขกห้องว่าการปกครองแขวงสะหวันนะเขต โดยมีผู้บริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อแจ้งวัตถุประสงค์การลงพื้นที่ของคณะ ในการสำรวจสถานที่และความเป็นไปได้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยการสนับสนุนของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สปป.ลาว

          นายสันติพาบ พมวิหาน กล่าวว่า แขวงสะหวันนะเขตมีศักยภาพหลายด้าน อาทิ ด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และอุตสาหกรรม ที่โดดเด่นที่สุด คือ เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน ที่ดึงดูดนักลงทุนจากหลายประเทศเข้ามาลงทุน     อย่างไรก็ดี แขวงสะหวันนะเขตยังขาดเทคโนโลยีที่ทันสมัย หากบริษัทมารูเบอนิ คอร์ปอเรชั่น มาลงทุนภายในแขวงสะหวันนะเขตก็จะช่วยเสริมสร้างให้อุตสาหกรรมพลังงานธรรมชาติของลาวมีการพัฒนาสูงขึ้น 

          ปัจจุบัน สปป.ลาว มีแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าแล้ว ๗๘ แห่ง มีกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมด ๙,๙๗๒ เมกกะวัตต์ สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง ๕๒,๒๑๑ ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี นอกจากนี้ ยังมีแหล่งผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ๑ แห่ง พลังงานไฟฟ้าชีวมวล ๔ แห่ง และพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ๖ แห่ง

          สำหรับ บริษัทมารูเบอนิ คอร์ปอเรชัน ก่อตั้งขึ้นในปี ๒๔๐๑ (๑๖๒ ปี) ที่ประเทศญีปุ่น ปัจจุบัน มี ๑๓๖ สาขาและสำนักงานใน ๖๘ ประเทศทั่วโลก เพื่อดำเนินธุรกิจในหลายสาขา เช่น ไลฟ์สไตล์ ไอซีที อสังหาริมทรัพย์ อาหาร ผลิตภัณฑ์จากป่า เคมีภัณฑ์ พลังงาน แหล่งแร่และโลหะ โครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจการบินและอวกาศ การเงิน การก่อสร้าง เป็นต้น

          แหล่งอ้างอิง

          ๑. หนังสือพิมพ์สะหวันพัฒนา, แขวงสะหวันนะเขตอาจกลายเป็นแหล่งผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในอาเซียน, ฉบับวันที่ ๓๐ ตุลาคม - ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

          ๒. เว็บไซท์บริษัทมารุเบอนิ <https://www.marubeni.com/en/company/profile/>, สืบค้น ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

          ๓. สำนักข่าวสารประเทศลาว, หารือการบริหารจัดการอ่างน้ำของเขื่อนไฟฟ้าน้ำตกและแผนรับมือฉุกเฉิน   ในฤดูฝน, สื่อออนไลน์, ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๓, สืบค้น ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

**************

สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต

๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓